การแทนพิกัดและรูปตัดกรวย
จากความพยายามที่หาหนทางนำเอาคณิตศาสตร์มาแทนรูปทรงเรขาคณิต โดยเริ่มจากในระนาบ จึงมีการกำหนดระนาบเป็นแกนสมมุติ x, y ซึ่งแทนระนาบใด ๆ |  |
 | เมื่อจุดอยู่บนระนาบจึงแทนด้วยคู่ลำดับ เช่น จุด 3 , 3 และทางเดินของจุดก่อให้เกิดเป็นเส้น เส้นตรงที่ลากผ่านจุดสองจุดบนระนาบ จึงเขียนแทนด้วยสมการทางเดินของจุด เช่น 2x + 2y = 4 เขียนเส้นทางเดินของเส้นตรงนี้ได้ |

ถ้า
เขียน
รูป
วง
กลม
ลง
บน
ระนาบ โดย
อาศัย
แกน
พิกัด
ฉาก และ
ให้
จุด
ศูนย์
กลาง
ของ
วง
กลม
อยู่
ที่
คู่
ลำ
ดับ x , y เป็น
0 , 0 ดัง
รูป
ทางเดิน
ของ
จุด P(x,y) เมื่อ
ให้
ระยะ
รัศมี
r คง
ที่
เสมอ
จะ
ได้
เส้น
ส่วน
โค้ง
ของ
วง
กลม จาก
สมการของพีธากอรัสทำ
ให้
เรา
ได้
OP2 = OQ2 + OP2 | หรือเขียนได้เป็น | x2 + y2 = r2 |
ซึ่ง
ก็
หมาย
ถึง
การ
แทน
วง
กลม
ลง
บน
ระนาบ
ที่
มี
รัศมี r และ
จุด
ศูนย์
กลาง
อยู่
ที่ (0,0) เรา
เขียน
สมการ
ทางเดิน
ของ
จุด
ได้
ยาม
ค่ำ
คืน
ถ้า
ได้
มี
โอกาส
สังเกต
บน
ฟาก
ฟ้า
จะ
พบ
เห็น
ดาว
ที่
สุก
สว่าง
มี
แสง
เจิด
จ้า ซึ่ง
ได้
แก่
ดาว
เคราะห์ และ
หาก
สังเกต
ต่อ
เนื่อง
ไป
หลาย ๆ วัน และ
อาจ
ถึง
หลาย
เดือน
จะ
พบ
เห็น
การ
เคลื่อน
ที่
ผ่าน
กลุ่ม
ดาว
ฤกษ์
ใน
ทางดารา
ศาสตร์ พบ
ว่า
ทางเดิน
ของ
ดาว
เคราะห์
ต่าง ๆ และ
โลก
โคจร
รอบ
ดวง
อาทิตย์
เป็น
วง
รี ใน
ยุค
แรก
คอเปอร์นิคัส (corpernicus) เสนอ
ทฤษฎี
การ
โคจร
ของ
ดาว
เคราะห์
เป็น
รูป
วง
กลม แต่
ต่อ
มา
พบ
ว่า
ไม่
ถูก
ต้อง ใน
ปี 1600 เคปเลอร์ (Kepler) ได้
เริ่ม
ศึกษา
ราย
ละเอียด
การ
โคจร
ของ
ดาว
เคราะห์ เคปเลอร์ได้
ทำ
การ
บัน
ทึก
การ
เปลี่ยน
แปลง
ของ
ตำแหน่ง
ดาว
อังคาร
บน
ฟาก
ฟ้า จน
ใน
ปี 1609 ก็
สามารถ
พิสูจน์
ให้
เห็น
ว่า ดาว
อังคาร
เคลื่อน
ที่
รอบ
ดวง
อาทิตย์
เป็น
วง
รี หลัง
จาก
นั้น
ก็
พิสูจน์
ได้
ว่า
ดวง
จันทร์ และ
ดาว
บริวาร
ต่าง ๆ หมุน
เป็น
รูป
วง
รี

วง
รี เป็น
เส้น
โค้ง
ที่
มี
ลักษณะ
ใกล้
เคียงกับวง
กลม แต่
มี
จุด
คง
ที่
สอง
จุด
เรียก
ว่า
จุดโฟกัส เส้น
โค้ง
ที่
เกิด
จาก
การ
เคลื่อน
ที่
ของ
จุด ซึ่ง
ลาก
มา
จาก
จุด
โฟกัส
จะ
ทำ
ให้
ผล
บวก
ของ
เส้น
ทั้ง
สอง
นี้
คง
ที่
เสมอ
ผลบวกของ F'P + FP มีค่าคงที่เสมอ เมื่อ P เคลื่อนที่ไปบนเส้นโค้ง
หาก
ลาก
เส้น
ผ่าน
ระหว่าง
โฟกัส
ทั้ง
สอง จะ
ตัด
วง
รี
ที่ A และ A' ความ
ยาว
นี้
มี
ค่า
เท่ากับ 2a เรียก
แกนยาวของวงรี และ
เส้น
ที่
ลาก
ผ่าน
จุด C ไป
ตาม
แกน Y พบกับส่วน
โค้ง
วง
รี
ที่ B และ B' ซึ่ง
มี
ความ
ยาว 2b เรียก
ว่า
แกนสั้นของวงรี สมการ
ของ
รูป
วง
รี
เมื่อ
เขียน
ใน
รูป
สมการ
จะ
ได้

เทคโนโลยี
การ
สื่อ
สาร
ดาว
เทียม
ประกอบ
ด้วย
จาน
รับ
สัญญาณ ตัว
จาน
รับ
สัญญาณ
มี
ผิว
โค้ง เพื่อ
รับ
สัญญาณ
ที่
ส่ง
ตรง
มา
จาก
ดาว
เทียม และ
สะท้อน
รวม
กัน
ที่
จุด
รับ
สัญญาณ เพื่อ
ให้
มี
สัญญาณ
ที่
แรง
ขึ้น
หรือ
เมื่อ
เรา
ใช้
ไฟ
ฉาย
ส่อง
เดิน
ทา
ง สังเกต
ว่า
มี
กระจก
สะท้อน
แสง
เพื่อ
รวม
ลำ
แสง
ให้
พุ่ง
เป็น
ลำ
ตรง โดย
หลัก
การ
ตาม
กฎ
การ
สะท้อน
ของ
แสง มุม
ตก
กระ
ทบ
ย่อม
เท่ากับมุม
สะท้อน จุด
ที่
รวม
กัน
บน
ผิว
ระนาบ
โค้ง
นี้
เรียก
ว่า
จุด
โฟกัส ผิว
โค้ง
ที่
ทำ
ให้
มุม
ตก
กระ
ทบ
และ
สะท้อน
มา
รวม
กัน
ที่
จุด
โฟกัส เรียก
ว่า
ผิวโค้งพาราโบลา สมการ
ของ
เส้น
โค้ง
พา
รา
โบ
ลา
เขียน
ได้
ดัง
นี้

และ
ถ้า
มี
จุด
คง
ที่
หรือ
จุด
โฟกัส
สอง
จุด
เช่น
เดียวกับวง
รี ถ้า
ให้
จุด ๆ หนึ่ง
เคลื่อน
ที่
ไป โดย
กำหนด
ให้
ผล
ต่าง
ระหว่าง
จุด
ที่
เคลื่อน
ที่
และ
จุด
คง
ที่
ทั้ง
สอง
มี
ค่า
คง
ที่ เรา
จะ
ได้
เส้น
โค้ง
ที่
เรียก
ว่า
ไฮเปอร์โบลา และ
จะ
มี
เส้น
โค้ง
นี้
สอง
เส้น
ที่
ไม่
ต่อ
กัน
จากรูป ผลต่างของ P F' กับ P F มีค่าคงที่
การ
ศึกษา
เส้น
ทางเดิน
ของ
จุด ทำ
ให้เคปเลอร์ทราบ
วิถี
การ
โคจร
ของ
ดาว
เคราะห์ และ
ต่อ
มา
นิวตันเข้า
ใจ
ถึง
หลัก
การ
ของ
แรงโน้มถ่วง และ
ทราบ
ถึง
ผล
ของ
การ
เคลื่อน
ที่
ที่
มี
ต่อ
แรงโน้มถ่วง นอก
จาก
นี้ฮัลเลย์ซึ่ง
เป็น
นัก
ดารา
ศาสตร์
ที่
มี
ชื่อ
เสียง
โด่ง
ดัง
ก็
สามารถ
ใช้
หลัก
การ การ
เคลื่อน
ที่
เป็น
รูป
วง
รี และ
พา
รา
โบ
ลา และ
แรงโน้มถ่วง
ของ
ดวง
ดาว
ต่าง ๆ ทำ
ให้
อธิบาย
ปรากฎ
การณ์
การ
เดิน
ทางของ
ดาว
หาง และ
สามารถ
ทำนาย
ดาว
หาง
ว่า
จะ
กลับ
มา
ให้
เห็น
อีก
ครั้ง
เมื่อ
ไร
การ
ศึกษา เส้น
โค้ง
ที่
กล่าว
มา
แล้ว
คือ วง
กลม วง
รี พา
รา
โบ
ลา และไฮเปอร์โบ
ลา มี
มา
นาน
แล้ว ตั้ง
แต่
ยุค
สมัย
อียิปต์
โบราณ ทั้ง
นี้
เส้น
โค้ง
เหล่า
นี้
เกิด
จาก
การ
ตัด
รูป
กรวย
ที่
มี
ฐาน
เป็น
วง
กลม
ด้วย
พื้น
ราบ
ใน
ลักษณะ
ต่าง ๆ
ถ้า
ตัด
ด้าน
พื้น
ราบ
ขนานกับฐาน ก็
จะ
ได้
วง
กลม ถ้า
ติด
เอียง
ทำ
มุม
ก็
จะ
ได้
รูป
วง
รี เมื่อ
พื้น
ราบ
เอียง
จน
ขนานกับเส้น
ที่
ลาก
จาก
ยอด
มา
ฐาน ก็
จะ
ได้
รูป
พา
ลา
โบ
ลา ถ้า
ใช้
กรวย
สอง
กรวย
ต่อ
จุด
ยอด
กัน แล้ว
ติด
พื้น
ราบ
ซึ่ง
ตั้ง
ฉากกับฐาน
กรวย
จะ
ได้
รูปไฮเปอร์โบ
ลา
เมื่อนำพื้นราบตัดรูปกรวยจะได้เส้นโค้งแบบต่าง ๆ
เส้น
โค้ง
และ
ผิว
โค้ง
ทางคณิต
ศาสตร์
ยัง
มี
อีก
มาก และ
เป็น
ศาสตร์
ที่
สามารถ
นำ
มา
ใช้
ใน
การ
ออก
แบบ
ผลิต
ภัณฑ์
ต่าง ๆ ได้
มาก
มาย ลอง
ค้น
หา
จาก
เอก
สาร
ต่าง ๆ ดู
ว่า เส้น
โค้ง
ทางคณิต
ศาสตร์
ที่
น่า
สน
ใจ
เหล่า
นี้
มี
ลักษณะ
อย่าง
ไร cycloid, cardioid Ephicycloid Hypocycloid spiral ฯล
ฯ
ประ
โยชน์
ของ
เส้น
โค้ง
หรือ
ผิว
โค้ง
จึง
มี
มาก
มาย
และ
เกี่ยว
ข้องกับชีวิต
ประจำ
วัน
อย่าง
มาก เช่น ขณะ
ขับ
รถ
ไป
ใน
ท้อง
ถนน ถ้า
วิศวกร
ออก
แบบ
ถนน
ให้
มี
ส่วน
โค้ง
ของ
ผิว
ถนน
ขณะ
ขึ้น
สะพาน และ
ลง
ระนาบ
พอ
ดี ผู้
ขับ
ขี่
ยวด
ยาน
จะ
ไม่
รู้
สึก
กระเพื่อม
ที่มา : รศ. ยืน ภู่วรวรรณ, สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
อ้างอิง : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet2/history_math/math_cone.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น